การแปลเป็นภาษาไทย ของ รุไบยาตของโอมาร์ คัยยาม

สำหรับฉบับแปลเป็นภาษาไทย ที่แปลจากฉบับของเอ็ดเวิร์ด ฟิตซ์เจอรัลด์ ครั้งแรกโดย กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงแปลเป็นกาพย์และโคลงสี่สุภาพจำนวน 204 บท พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2457 หลังจากนั้นมีผู้แปลอีกหลายคน เช่น แคน สังคีต (พ.ศ. 2508) และ สุริยฉัตร ชัยมงคล (พ.ศ. 2528) เป็นต้น

ส่วนฉบับที่แปลจากสำนวนแปลภาษาอังกฤษของ โรเบิร์ต เกรฟส์ และ โอมาร์ อาลีชาห์ได้แก่สำนวนของวีนัส กิติรังษี (นามปากกาของ ไรน่าน อรุณรังษี) แปลจากพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2521 ต่อมามีการแก้ไขปรับปรุงและตีพิมพ์ใหม่ในนามของ น่าน กิติรังษี เมื่อ พ.ศ. 2536 และตีพิมพ์อีกครั้งในนาม ไรน่าน กิติรังษี เมื่อ พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ยังมีสำนวนแปลของมนตรี อุมะวิชนี โดยชมรมการประชุมสภากวีโลกเมื่อ พ.ศ. 2546

สำนวนแปลโดยกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์

กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ (20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2474) ทรงแปลเป็นกาพย์และโคลงสี่สุภาพรวมจำนวน 204 บท พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2457 หลังสุดพิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2513 โดยสำนักพิมพ์คลังวิทยา

ตัวอย่างบทกวี

๏ ตื่นเถิด, อุทัยเจิดเล้ารัตยา ผยองเอย
ดาวเจิ่ง, เวิ้งสวรรค์ลาลิบแล้ว
พรานบูรพ์, ทอดบ่วงถาโถมคร่อม คล้องแฮ
ปราสาท, ซุ่ลต่านแพร้วพรื่อสร้านฉานแสง ๚ะ

หรือ

๏ เป็นโตเป็นใหญ่พ้นภยันตราย ไฉนรา
ยศหยิ่งศฤงคารคายคุ่มได้
กรุณานุเคราะห์ขยายคุณยืด ยงนอ
อย่าสนิทอย่าห่างไว้ศักดิ์ละม้ายสายกลาง ดีแล ๚ะ

บทที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปได้แก่

ดูหนังดูละคร แล้วย้อนดูตัวขำอุราน่าหัว เต้นยั่วอย่างฝัน
ดอกเอ๋ยดอกเจ้า ดอกทานตะวันละครคนละคนขัน ประชันกันสนุกเอย

สำนวนแปลโดยแคน สังคีต

แคน สังคีต (พิมาน แจ่มจรัส) แปลรุไบยาตของโอมาร์ คัยยัม โดยใช้ชื่อว่า รุไบยาท เรียบเรียงเป็นกลอนจำนวน 101 บท พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2508 พิมพ์ครั้งที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2550 โดยสำนักพิมพ์แสงดาว แคน สังคีต ไม่ได้แปลโดยตรงแต่ใช้วิธี “แปร” คือเขียนขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด เก็บเอาศรัทธาและอารมณ์ของ โอมาร์ คัยยัม มาร้อยกรองด้วยความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง กล่าวได้ว่า เป็นการนำแนวความคิดเปอร์เซียมาแต่งใหม่ด้วยบรรยากาศไทย[2] จัดเป็นการสร้างสรรค์ใหม่บนพื้นฐานเดิม

ตัวอย่างบทกวี

ตื่นขึ้นเถิดเพื่อรับแสงแห่งสูรย์ส่องเมื่อดาวล่องเดือนลับไปกลับฝัน
ขับราตรีหนีเตลิดเพื่อเปิดวันเชิญร่วมกันฟังดนตรีแห่งชีวา
จำเพื่อลืมดื่มเพื่อเมาเหล้าเพื่อโลกสุขเพื่อโศกหนาวเพื่อร้อนนอนเพื่อฝัน
ชีวิตนี้มีค่านักควรรักกันรวมความฝันกับความจริงเป็นสิ่งเดียว
ชีวิตนี้มีสองแพร่งแย้งกันอยู่หนีหรือสู้คดหรือซื่อร้อนหรือหนาว
ไหวหรือนิ่งจริงหรือฝันสั้นหรือยาวดำหรือขาวดีหรือเลวเร็วหรือนาน
แขนทั้งสองของเจ้าจงเฝ้าสู้ขาทั้งคู่ย่างไปไม่ยอมหยุด
แขนจะล้าขาจะล้มไม่ซมทรุดสู้ให้สุดศักดิ์ศรีของชีวิต
แด่พธูผู้ผ่านไปในอดีตแด่สังคีตแห่งสินธูและภูเขา
แด่ความฝันอันลำพองของพวกเราดื่มหมดแล้วเหลือแก้วเปล่า เอ้า! คว่ำลง...

สำนวนแปลโดยสุริยฉัตร ชัยมงคล

สุริยฉัตร ชัยมงคล แปลรุไบยาต ของ โอมาร์ คัยยัม ฉบับแปลของเอ็ดเวิร์ด ฟิตซ์เจอรัลด์ โดยเก็บเนื้อความให้ตรงต้นฉบับมากที่สุด เป็นกลอนจำนวน 75 บท พิมพ์ครั้งแรกเมื่อพฤศจิกายน พ.ศ. 2528 โดยสำนักพิมพ์เคล็ดไทย พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2536 โดย สนพ.ทานตะวัน

ตัวอย่างบทกวี

ท่านจักยุรยาตรบาทแพรวแสงผ่านประกายแห่งดาวเยือนระยับหญ้า
โดยเปรมปรีดิ์สู่จุดที่ข้าล่วงมาก่อนคว่ำแก้วแล้วลาจากจรดล
โอ้กุหลาบโรยลับกับคิมหันต์หวานวารวันวัยเยาว์ก็วูบหาย
นกเพรียกเพลงเพียงฝันพรรณรายเมื่อวางวายแล้วไปไหนไม่รู้เลย
โอ้รักกับข้าเองและเพรงกรรมหากเราทำลายแผนเศร้าแห่งฟ้าได้
ก็จะเหยียบให้มันแหลกมลายไปแล้วหลอมใหม่ให้รื่นรมย์สมทรวงปอง

สำนวนแปลโดยไรน่าน อรุณรังษี

ไรน่าน อรุณรังษี แปลจากสำนวนแปลภาษาอังกฤษของ โรเบิร์ต เกรฟส์ และ โอมาร์ อาลีชาห์ ในนามปากกา วีนัส กิติรังษี พิมพ์ครั้งแรกโดย สำนักพิมพ์การเวก เมื่อ พ.ศ. 2521 ต่อมาได้มีการแก้ไขปรับปรุงและตีพิมพ์ใหม่ในนามของ น่าน กิติรังษี โดยสำนักพิมพ์ประดู่ลาย พ.ศ. 2536 และตีพิมพ์อีกครั้งในนาม ไรน่าน กิติรังษี โดยศูนย์วัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ร่วมกับองค์การยูเนสโกและหนังสือพิมพ์มุสลิมนิวส์ เมื่อ พ.ศ. 2546

ตัวอย่างบทกวี โดย วีนัส กิติรังษี (ไรน่าน อรุณรังษี)

ยามอรุณเบิกฟ้าทูตทิวาเยี่ยมเยือน
เตือนภพแผ่นฟากฟ้ายื่นหัตถาอวยชัย
ให้แด่ผืนปฐพีที่เพิ่งสร่างนิทรา
ด้วยคำว่า “แด่ไวน์”สุรีย์ไขแสงส่อง
สีทองทาบอาบหล้าโพ้นหลังคานครคาม
ยามเจ้าภาพทรงศักดิ์ผู้พิทักษ์ทิวาวาร
ประทานประจุเหยือกแก้วของเขาแล้วเต็มเปี่ยม


ตัวอย่างบทกวี โดย น่าน กิติรังษี (ไรน่าน อรุณรังษี)

อรุณฤกษ์เบิกฟ้าเวหาสวรรค์ทูตทิพาจะรังสรรค์พลันแผ่หา
ย่องเยื้องเยือนเตือนพิภพจบนภายื่นหัตถาอ้าอำนวยอวยพรชัย
วิงวอนช่วยอวยสวัสดิ์พิพัฒน์ผลมิ่งมงคลยลยามตามพิสัย
ปฐพีเพิ่งสร่างซานิทราลัยด้วยคำแท้แด่ไวน์วิวาห์วาร
สุรีย์บทสดใสไขแสงส่องสาดสีทองอ่องอาบทาบสุขศานต์
โพ้นหลังคานาครคามงามตระการเจ้าภาพผ่านชาญศักดิ์พิทักษ์ทิวา
ประทานเหยือกเลือกสรรอันเลิศแล้วประจุแก้วเขาเปี่ยมเยี่ยมหนักหนา...
ดื่ม ก่อนเถิด ! ดื่มให้วัยมนพ
แด่ชีวิตมิรู้จบแห่งเหล้า
มาลีร่ำเรณูอบหอมมิตร ภาพแฮ
ดื่มแด่ความสุขเจ้าที่เย้ายวนชม ฯ
หากขนม (ปัง) กึ่งก้อนอิ่มอาจหา
ร้อนอากาศอาจนิทราร่มไม้
ใช่ทาส - อีกทาสาหาไป่ มีแฮ
สุขแน่ ! โลกนี้ไซร้สุขไร้ไหนเสมือน ฯ